ปัจจุบันมือถือเกือบทุกรุ่นรองรับ การอัดเสียงระหว่างโทรศัพท์ ได้แล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแบรนด์ไหนทำได้ “เนียน” แบบไม่มีการแจ้งเตือน และแบรนด์ไหนอาจเตือนเสียงให้คู่สนทนารู้ตัว ซึ่งหากคุณมีเหตุผลจำเป็นในการอัดเสียง เช่น เพื่อบันทึกข้อตกลงทางธุรกิจหรือหลักฐานบางอย่าง เราขอแนะนำวิธีอัดเสียงแบบแนบเนียนที่สุด พร้อมเตือนข้อควรระวังทางกฎหมายก่อนลงมือ
วิธีอัดเสียงโทรแบบเนียน ๆ (ง่ายที่สุด)
แบรนด์มือถือ | อัดเสียงได้ไหม | แจ้งเตือนอีกฝ่ายไหม |
---|---|---|
iPhone (iOS 18 ขึ้นไป) | ได้ แต่มีการแจ้งเตือนทันที | แจ้งเตือนขณะเริ่มอัดเสียง |
Samsung | ได้ทันทีระหว่างโทร | ไม่มีการแจ้งเตือน |
Xiaomi | ได้ และตั้งค่าเปิด/ปิดการแจ้งได้ | เลือกเปิด-ปิดการเตือนได้ใน Settings |
vivo / OPPO / realme / OnePlus | อัดเสียงได้เลย | ไม่มีการแจ้งเตือน |
Nokia / HMD / Pixel | อัดเสียงได้ | ไม่มีการแจ้งเตือน |
HONOR | มีฟีเจอร์อัดเสียงในตัว | มีเสียงแจ้งเตือนและดังมาก |
Huawei | ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน | (ควรเช็กเพิ่มเติมก่อนใช้งาน) |
Tip: มือถือ Android ส่วนใหญ่ตั้งค่าการอัดเสียงได้ในเมนู “บันทึกการโทร” หรือ “Call recording” ในแอปโทรศัพท์
วิธีอัดเสียงโทรแบบเนียน ๆ (ถ้ากลัวมือถือเตือน)
หากไม่มั่นใจว่ามือถือของคุณจะแจ้งเตือนอีกฝ่ายหรือไม่ อาจเลือกใช้วิธี อัดเสียงจากภายนอก ดังนี้:
- เปิด ลำโพงสนทนา (Speaker) แล้วใช้มือถืออีกเครื่อง หรือเครื่องบันทึกเสียง ตั้งใกล้ ๆ เพื่ออัดเสียง
- หาที่เงียบเพื่อให้เสียงชัด ไม่ติดเสียงรบกวน
- ใช้ แอปภายนอก เช่น Cube ACR (Android) หรือ Voice Recorder Pro (iOS) โดยต้องเช็กเงื่อนไขความเข้ากันได้กับรุ่นและเวอร์ชันระบบ
ข้อควรรู้ทางกฎหมายก่อนอัดเสียงผู้อื่น
แม้การอัดเสียงจะทำได้ แต่ การนำเสียงที่อัดไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น:
- ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
- ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากนำคลิปเสียงไปเผยแพร่โดยสร้างความเสียหาย
- หลักฐานในการดำเนินคดี อาจใช้ได้ หากไม่ถูกตัดสินว่าได้มาโดยมิชอบ (เช่น แอบอัดโดยไม่มีเหตุอันควร)
สรุปคือ: ถ้าอัดไว้เพื่อใช้ส่วนตัวหรือเป็นหลักฐานในกรณีที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง มักไม่ผิด แต่ ห้ามนำไปเผยแพร่สาธารณะโดยไม่ขออนุญาตอีกฝ่ายเด็ดขาด