ไฟเตือนน้ำมันขึ้น อย่ามองข้าม! อาจเสียทั้งรถและความปลอดภัย
ใครที่ชอบขับจนไฟเตือนน้ำมันขึ้นบ่อยๆ แล้วคิดว่า “เอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเติม” ต้องระวัง เพราะผลเสียที่ตามมาอาจหนักหนากว่าที่คิด ทั้งต่อ ระบบเครื่องยนต์, ค่าใช้จ่าย และ ความปลอดภัยของชีวิต วันนี้เรารวบรวม 3 คำเตือนสำคัญที่คุณควรรู้ไว้ก่อนจะเสียใจในภายหลัง
1. รถพังแบบไม่รู้ตัว – เสียหายถึงระบบเชื้อเพลิง
- ปั๊มติ๊กพัง: เมื่อน้ำมันเหลือน้อยเกินไป ปั๊มติ๊กจะไม่มีน้ำมันมาหล่อเลี้ยง ทำให้เกิดความร้อนและสึกหรอเร็ว เสี่ยงพังแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งค่าเปลี่ยนปั๊มติ๊กหลักหมื่นบาท
- ตะกอนเข้าระบบ: น้ำมันใกล้หมดจะดูดตะกอนจากก้นถัง ทำให้กรองน้ำมันอุดตัน หรือแย่กว่านั้นคือไปอุดหัวฉีด ทำให้เครื่องสะดุด กำลังตก
- แคทตาไลติกเสีย: หากระบบจ่ายน้ำมันผิดปกติ เครื่องอาจ “จุดระเบิดผิดจังหวะ (Misfire)” ส่งผลให้น้ำมันเผาไม่หมดไปเผาในท่อแคท เกิดความร้อนสูงจนหลอมชิ้นส่วนภายใน
2. ถ้าเป็นรถดีเซล เสี่ยงสตาร์ทไม่ติด!
รถดีเซลที่น้ำมันหมดจนแห้ง อากาศจะเข้าไปในระบบเชื้อเพลิง ทำให้เกิด “ฟองอากาศ” ต้อง ไล่ลม (Bleeding) ออกจากระบบก่อนถึงจะสตาร์ทติด ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปมักทำเองไม่ได้ ต้องเรียกช่าง เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
3. เสี่ยงชีวิต-เสียเงินโดยไม่จำเป็น
- รถดับกลางทาง: หากน้ำมันหมดกลางถนน โดยเฉพาะบนทางด่วนหรือทางโค้ง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้
- จอดในที่เปลี่ยว: หากเกิดเหตุเวลากลางคืนหรือในที่ไม่มีผู้คน อาจเสี่ยงต่อทรัพย์สินและความปลอดภัย
- เสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่ม: ค่าปรับ ค่ารถลาก ค่าบริการฉุกเฉิน รวมถึงเวลาที่เสียไป ล้วนเป็นต้นทุนที่ไม่คุ้มเลยแม้แต่น้อย
สรุป อย่าละเลยไฟเตือนน้ำมัน เติมก่อนดีที่สุด!
แม้จะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่การ “ปล่อยให้ไฟเตือนน้ำมันขึ้นบ่อยๆ” คือพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้รถคุณพังแบบไม่รู้ตัว ดังนั้น เติมก่อนดีกว่าแก้ เพราะแค่ไม่เติมน้ำมัน อาจต้องเสียเงินเป็นหมื่น และอาจเสี่ยงชีวิตได้เลย